5 วิธีในการที่เราจะเอาชนะ “ความขี้เกียจ”

บอกได้เลยว่า ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่แค่ไหน เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีอารมณ์และความรู้สึกขี้เกียจและไม่อยากที่จะทำสิ่งๆนั้นในช่วงเวลานั้นๆ ยิ่งสมัยนี้เป็นยุคสมัยที่เรานั้นสามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้แล้วหรือเรียกว่า Work From Home การทำงานที่บ้านสร้างความสะดวกสบายจริงๆแต่มันอาจจะสบายเกินไปจนทำให้เราเหลวไหลและทำให้เกิดอาการขี้เกียจทำนู่นทำนี่ไปด้วย วันนี้เราเลยจะเอาวิธีที่จะกำจัดอาการขี้เกียจและเราสามารถเอาชนะความขี้เกียจได้ 5 ข้อด้วยกันเพื่อเป็นการปรับนิสัยตัวเองให้ลุกจากความขี้เกียจเราไปดูกันเลย

1.คิดถึงตัวเอง หลายๆคนอาจจะงงว่าทำไมขี้เกียจแล้วมันทำให้ร่างกายแย่ลงยังไง ส่งผลต่อสุขภาพได้ยังไง แน่นอน การที่เราขี้เกียจอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือการขี้เกียจที่จะออกกำลังกายนั่นเองเมื่อไม่อยากออกกำลังกาย ร่างกายของเราก็มีแต่กินเข้าไปแต่ไม่ได้รับการเผาผลาญโดยการออกกำลังกายเลยและบางคนอาจจะรับประทานอาหารที่เป็นอาหารที่ให้แต่โทษ เช่นของทอด ของมัน ของที่ไม่มีประโยชน์น้ำอัดลมซึ่งทำให้ ร่างกาย ในส่วนของกล้ามเนื้อหรือกระดูกของเรานั้นเสื่อมสภาพลงและอ่อนแอลงให้ที่สุดวิธีแก้ก็คือการตั้งเป้าหมายและเพื่อร่างกายของตัวเอง

2.การตั้งเป้าหมาย เมื่อวันไหนที่เราตั้งเป้าหมายและเห็นเป้าหมายของเราที่จะต้องทำให้สำเร็จแล้วก็จะทำให้เรามีจุดมุ่งหมายที่เราอยากจะลุกขึ้นมาสู้เพื่อคว้าเป้าหมายของเราให้ได้ ถ้าเราไม่มีการตั้งเป้าหมายหรือไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลยก็จะทำให้เรากลับไปที่จุดเดิมจุดที่เราขี้เกียจจะทำอะไรสักอย่าง และก็ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เลิกความขี้เกียจได้

3.พักผ่อนและนอนหลับให้เพียงพอ การที่เราขี้เกียจจะทำอะไรก็แล้วแต่อาจจะเป็นเพราะร่างกายของเรานั้นพักผ่อนไม่เพียงพอเท่าที่ควร และมันเลยทำให้เราขี้เกียจไปทำอะไรอย่างอื่นที่มันควรจะทำไปด้วย การที่เรานั้นพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นการสร้างและการทำให้ร่างกายของเราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาไม่เอื่อยเฉื่อย และอยากทำนู่นทำนี่การที่เราพักผ่อนให้พอ ก็ทำให้เราอาจจะเป็นคนที่ไม่ขี้เกียจไม่มีความรู้สึกว่าขี้เกียจติดตัวอีกเลยและการนอนพักผ่อนให้เพียงพอนั้นจะทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างเต็มที่และมีสติไม่เอ๋อไม่มีความคิดที่ไม่อยากทำอะไรอีกเลยนอกจากนี้ยังทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วยที่สำคัญการนอนให้พอนั้นจะทำให้เรามีแรงที่จะทำงานหรือทำงานบ้านทำกับข้าวการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา

4.การออกกำลังกาย ข้อนี้ไม่ทำไม่ได้เพราะถ้าเรานั้นไม่ได้ออกกำลังกายเลย จะทำให้ร่างกายของเรานั้นรู้สึกไม่อยากขยับตัวหรือไม่อยากลุกไปทำอะไรเลยนั่นเอง การที่เราออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้การไหลเวียนของเลือดนั้นดีขึ้นร่างกายของเราก็จะกระปรี้กระเปร่าในการใช้ชีวิตมากขึ้น และที่สำคัญการออกกำลังกายนั้นยังทำให้ร่างกายแข็งแรงช่วยทำให้จากที่เรามีแรงก็ใช้การออกกำลังกายนั้นเผาผลาญพลังงานของเราที่มีเยอะเกินไปแล้วไม่ได้ใช้แต่ต้องใช้ออกนั่นเองซึ่งวิธีที่ดีที่สุดของการเลิกขี้เกียจเมื่ออ่านมาถึงตอนนี้แล้ว เราควรหาวันที่จะออกไปวิ่งหรือออกไปเล่นกีฬาได้เลยเพื่อการเอาชนะความขี้เกียจที่แน่นอนที่สุดและไม่กลับไปเป็นคนขี้เกียจอีก

5.การให้รางวัลกับตัวเอง เมื่อเราเริ่มที่จะลุกและตื่นออกมาจากความขี้เกียจแล้วเราควรที่จะหาอะไรที่เป็นรางวัลของตัวเองเพื่อที่เราจะได้มีกำลังใจในการทำอะไรต่อไปในอนาคต และจะได้ไม่รู้สึกขี้เกียจอีกในตอนหลัง เช่น ถ้าเราสามารถออกกำลังกายได้และลดน้ำหนักตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ก็ลองให้รางวัลกับตัวเองเช่นการไปกินอะไรอร่อยๆ กับแฟน หรืออาจจะเป็นการซื้อของหรือซื้ออะไรให้ตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ เพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเองในการใช้ชีวิตต่อไปและเพื่อที่เราจะได้ไม่กลับไปเป็นคนขี้เกียจอีก